วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2556

เพกา

เพกา
ชื่อวิทยาศาสตร์ :    Oroxylum indicum  (L.) Kurz
ชื่อสามัญ :   Broken Bones Tree
วงศ์ :   Bignoniaceae
ชื่ออื่น :  มะลิดไม้ มะลิ้นไม้ ลิดไม้ (เหนือ) ลิ้นฟ้า (เลย) หมากลิ้นก้าง หมากลิ้นซ้าง (ฉาน-เหนือ) กาโด้โด้ง (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี) ดอก๊ะ ด๊อกก๊ะ ดุแก (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) เบโก (มาเล-นราธิวาส)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :  ไม้ต้น สูง 3-12 เมตรแตกกิ่งก้านน้อย ใบประกอบแบบขนนกสามชั้น ขนาดใหญ่ เรียงตรงข้ามรวมกันอยู่บริเวณปลายกิ่ง ใบย่อยรูปไข่หรือรูปไข่แกมวงรี กว้าง 4-8 ซม. ยาว 6-12 ซม. ดอกช่อ ออกที่ปลายยอดก้านช่อดอกยาว ดอกย่อยขนาดใหญ่กลีบดอกสีนวลแกมเขียว โคนกลีบเป็นหลอดสีม่วงแดง หนาย่น บานกลางคืน ผลเป็นฝัก รูปดาบ เมื่อแก่จะแตก ภายในเมล็ดแบน สีขาว มีปีกบางโปร่งแสง

 ส่วนที่ใช้ : ราก เปลือกต้น ฝักอ่อน เมล็ด

สรรพคุณ :
ราก
-  มีรสฝาดเย็น ขมเล็กน้อย ใช้บำรุงธาตุ ทำให้เกอดน้ำย่อยอาหาร เจริญอาหาร
-   แก้ท้องร่วง แก้บิด แก้ไข้สันนิบาต
-   ใช้ภายนอก รากฝนกับน้ำปูนใส ทาแก้อาการอักเสบ ฟกบวม
เพกาทั้ง 5
 -  คือการใช้ส่วนราก ใบ ดอก ผล ต้น รวมกันจะมีรสฝาดเย็น มีสรรพคุณสมานแผล แก้อักเสบบวม แก้ท้องร่วง บำรุงธาตุ แก้น้ำเหลืองเสีย แก้ไข้เพื่อลม เพื่อเลือด
ฝักอ่อน 
- รับประทานเป็นผัก ช่วยในการขับผายลม บำรุงธาตุ
เมล็ด
 - ใช้เป็นยาถ่าย เมล็ดแก่ใช้เป็นยาระบาย แก้ไอ ขับเสมหะ
เปลือกต้น
-รสฝาดเย็น และขมเล็กน้อย เป็นยาสมานแผล ทำน้ำเหลืองให้เป็นปกติ ขับน้ำเหลืองเสีย ขับเลือดดับพิษโลหิต บำรุงโลหิต แก้เสมหะจุกคอ ขับเสมหะ แก้บิด แก้อาการจุกเสียด
เปลือกต้นตำผสมกับสุรา
-     ใช้เป็นยากวาดประซะพิษซางเด็กชนิดเม็ดเหลือง
-      แก้ละองขึ้นในปาก คอลิ้น แก้ละอองไข้
-     ใช้ฉีดพ่นตามตัวคนคลอดบุตรที่ทนการอยู่ไฟไม่ได้ ทำให้ผิวหนังชา
-     ทารอบ ๆ ฝี แก้ปวดฝีทาแก้อาการฟกบวมอักเสบ
เปลือกต้นสดตำผสมกับน้ำส้ม  ซึ่งได้จากรังมดแดงหรือเกลือสินเธาว์
-    รับประทานขับลมในลำไส้ แก้จุกเสียด แก้บิด แก้อาเจียนไม่หยุด
-    รับประทานแก้เสมหะจุกคอ (ขับเสมหะ) ขับเลือดเน่าในเรือนไฟ บำรุงโลหิต
นอกจากนี้เปลือกเพกา ใช้ร่วมกับสมุนไพรอื่น แก้เบาหวาน แก้โรคมานน้ำ เปลือกต้มรวมกับสมุนไพรหลายชนิด แยกเอาน้ำมันมาทาแก้
-     แก้องคสูตร
-    แก้ริดสีดวงทวารหนัก ทวารเบา
-    แก้ฟกบวม แก้คัน

สารเคมี:
ราก      มี D-Galatose, Baicalein, Sitosterols
แก่น     มี Prunetin, B- sitosterols
ใบ        มี Aloe emodin
เปลือก  มี  Baicalein, Chrysin, 6-Methylbaicalein

อ้าง อิงจาก http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_07_7.htm เพื่อเป็นความรู้กับผู้ที่สนใจด้านสุขภาพและการใช้สมุนไพรอย่างถูกวิธี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น